วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อินเทอร์เน็ต

               อินเทอร์เน็ต (อังกฤษ: Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหinternetว่างเครือข่ายหลายๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (Protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลายๆ ทาง อาทิเช่น อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่างๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้

               อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) จากการเกิดเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency NETwork) ซึ่งเป็นเครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยชั้นสูงของกระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการสร้างเครือข่ายคือ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อ และมีปฏิสัมพันธ์กันได้ เครือข่าย ARPANET ถือเป็นเครือข่ายเริ่มแรก ซึ่งต่อมาได้ถูกพัฒนาให้เป็นเครือข่าย อินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน

การประยุกต์ใช้งานอินเทอร์เน็ต
              การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันทำได้หลากหลาย อาทิเช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล์ (e-Mail) , สนทนา (Chat), อ่านหรือแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ด, การติดตามข่าวสาร, การสืบค้นข้อมูล / การค้นหาข้อมูล, การชม หรือซื้อสินค้าออนไลน์ , การดาวโหลด เกม เพลง ไฟล์ข้อมูล ฯลฯ, การติดตามข้อมูล ภาพยนตร์ รายการบันเทิงต่างๆ ออนไลน์, การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์, การเรียนรู้ออนไลน์ (e-Learning), การประชุมทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต (Video Conference), โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP), การอับโหลดข้อมูล หรือ อื่นๆ

              แนวโน้มล่าสุดของการใช้อินเทอร์เน็ตคือการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพื่อสร้างสังคมออนไลน์ (Social Network) ซึ่งพบว่าปัจจุบันเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น facebook, twitter, hi5 และการใช้เริ่มมีการแพร่ขยายเข้าไปสู่การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Internet) มากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบันสนับสนุนให้การเข้าถึงเครือข่ายผ่านโทรศัพท์มือถือทำได้ง่ายขึ้นมาก

จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
              ปัจจุบัน จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกโดยประมาณ 1.733 พันล้านคน หรือ 25.6 % ของประชากรทั่วโลก (ข้อuntitledมูล ณ เดือน กันยายน 2552) โดยเมื่อเปรียบเทียบในทวีปต่างๆ พบว่าทวีปที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือ เอเชีย โดยคิดเป็น 42.6 % ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด และประเทศที่มีประชากรผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือประเทศจีน คิดเป็นจำนวน 360 ล้านคน
             หากเปรียบเทียบจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกับจำนวนประชากรรวม พบว่าทวีปอเมริกาเหนือมีสัดส่วนผู้ใช้ต่อประชากรสูงที่สุดคือ 74.2 % รองลงมาได้แก่ ทวีปออสเตรเลีย 60.4 % และ ทวีปยุโรป คิดเป็น 52.0 % ตามลำดับ

อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
            อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยการเชื่อมต่อมินิคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แต่ในครั้งนั้นยังเป็นการ เชื่อมต่อโดยผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งสามารถส่งข้อมูลได้ช้าและไม่เป็นการถาวร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้ทำการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัย 6 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(NECTEC), มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าด้วยกันเรียกว่า "เครือข่ายไทยสาร"
            การให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2538 โดยความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง คือ การสื่อสารแห่งประเทศไทย องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยให้บริการในนาม บริษัท อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย (Internet Thailand) เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์รายแรกของประเทศไทย

จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
            จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ ปี 2534 (30คน) ปี 2535 (200 คน) ปี 2536 (8,000 คน) ปี 2537 (23,000 คน)  ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2551 จากจำนวนประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไปประมาณ 59.97 ล้านคน พบว่า มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์ 16.99 ล้านคน คิดเป็น ร้อยละ 28.2 และมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 10.96 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 18.2

อินเทอร์เน็ตแบนด์วิท (INTERNET BANDWIDTH)
            ปัจจุบัน (มกราคม 2553) ประเทศไทยมี Internet Bandwidth ในประเทศ 110 Gbps และ International Internet Bandwidth 110 Gbps

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เป็น " สิว "บอกอะไรได้มากกว่าที่คิด

เป็น " สิว "บอกอะไรได้มากกว่าที่คิด
สิวผุดขึ้นมาแต่ละเม็ด แต่ละเม็ด ก็ทำให้หนุ่มสาวหน้าใสที่ห่วงสวยห่วงหล่อแทบคลั่ง วิ่งหาวิธี delete สิวออกไปจากใบหน้ากันให้วุ่นวาย แต่จะมีซักกี่คนที่จะรู้ว่าเป็นสิวไม่ใช่แค่บอกว่าสุขภาพผิวหน้าเราไม่ดี แต่ยังบอกถึงสุขภาพทั่ว ๆ ไปอีกด้วย เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถาบัน Leonard Drake ได้คิดค้นวิธีการวิเคราะห์ผิวลงไปลึกลงไปอีก ด้วยการผสานความรู้ในการดูแลผิวหน้าแบบตะวันตกเข้ากับศาสตร์การอ่านใบหน้าแบบจีน ซึ่งสามารถบอกได้ว่าสิวที่ขึ้นตามตำแหน่งต่าง ๆ ของใบหน้าหรือร่างกาย บอกความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนในบ้าง ว่าแล้วก็ไปหยิบกระจกมาส่องหน้าดูซิว่า อวัยวะส่วนใดผิดปกติกันบ้าง

โซนที่ 1
ตำแหน่งของสิว :หน้าผากด้านซ้าย
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง :การย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ต่อมหมวกไต
สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ :มีความเครียดสูง ล้างหน้าไม่สะอาด เพราะทารองพื้นหรือแต่งคิ้วมากไป

โซนที่ 2
ตำแหน่งของสิว : หว่างคิ้ว
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง : ตับ
สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ :อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้)การรสจัดหรืออาหารกินอาหารดึกเกินไป

โซนที่ 3
ตำแหน่งของสิว : หน้าผากด้านขวา
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง :การย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ต่อมหมวกไต
สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ :มีความเครียดสูง ล้างหน้าไม่สะอาด เพราะทารองพื้นหรือแต่งคิ้วมากไป

โซนที่ 4,10
ตำแหน่งของสิว : ใบหูทั้ง 2 ข้าง
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง :ไต
สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ :ล้างแชมพูหรือสบู่ออกไม่หมด ใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไป ดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์หรือกินเนื้อสัตว์มากเกินไป

โซนที่ 5,9
ตำแหน่งของสิว: แก้มทั้ง 2 ด้าน
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง :
- แก้มส่วนบน ไซนัสและปอด
- แก้มส่วนล่าง เหงือก และฟัน
สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ :สูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็น ๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์มือถือไม่สะอาด

โซนที่ 6, 8
ตำแหน่งของสิว :รอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง :ไต และปัญหาภูมิแพ้
เสาเหตุของอาการที่ผิดปกติ :ครื่องสำอางทีใช้อาจไม่เหมาะ หรือใส่แว่นาที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือผักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคืองอาจมาจากการเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร

โซนที่ 7
ตำแหน่งของสิว: จมูก และเหนือริมฝีปาก
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง :หัวใจ และระบบสืบพันธุ์
สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ :หากมีผิวสีแดงเข้มที่จมูก อาจบ่งบอกถึงโรคความดันโลหิตสูง การอุดตันหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ บอกถึงผลกระทบจากฮอร์โมน เช่นกำลังมีประจำเดือน วัยทอง การใช้ยาคุมกำเนิด

โซนที่ 11,13
ตำแหน่งของสิว :ใต้ริมฝีปากด้านซ้าย และขวา
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง :รังไข่
สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ: อาจทำความสะอาดได้ไม่พอ หรือมาจากความสมดุลทางฮอร์โมน หากมีปัญหาการอุดตันช่วงใบหู อาจแสดงว่าฟันกรามมีปัญหา หรือว่าเพิ่งผ่าตัดฟันมา หรืออาจเกิดจากการมีรอบเดือน

โซนที่ 12
ตำแหน่งของสิว :ปลายคาง
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง :กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก
สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ :อาจกินอาหารรสจัดเกินไปจนลำไส้มีปัญหาในการดูดซึม

โซนที่ 14
ตำแหน่งของสิว ลำคอ และหน้าอก
สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ :ความเครียด
วันนี้ถ้าส่องกระจกดูสิว ก็อย่าลืมสังเกตสุขภาพร่างกายไปพร้อม ๆ กันด้วยนะคะ
ข้อมูลจาก สถาบัน Leonard Drake


มังคุดทำลายเซลล์มะเร็ง

ใครที่ชอบทานมังคุด ทราบหรือไม่ว่า มังคุดก็สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาบอกกัน...
นักวิทยศาสตร์ ได้ศึกษาสารสกัดจากเปลือกมังคุดพบฤทธิ์จู่โจมเฉพาะเซลล์มะเร็งในร่างกาย โดยไม่สร้างความเสียหายให้เซลล์ดีที่อยู่รายรอบผลการทดลอง สารสกัดจากเปลือกมังคุดสามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี แม้จะใช้เพียงเล็กน้อยเพียง 4 มิลลิกรัมก็ตามสารสกัดจากเปลือกมังคุดที่นำมาใช้ในการศึกษานี้ ได้รับการสนับสนุนจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยการทดสอบพบว่า สารสกัดในปริมาณ 4 มิลลิกรัม ดังกล่าว สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้กว่า 50% ของเซลล์มะเร็งทั้งหมด และจากการขยายผลนำสารสกัดไปทดสอบกับเซลล์มะเร็งอื่น ก็พบว่าสามารถออกฤทธิ์ดีในการทำลายเซลล์มะเร็งลำไส้และเซลล์มะเร็งตับ
รู้อย่างนี้แล้ว ก็ลองหันมาทานมังคุดกันดีกว่า เพื่อสุขภาพที่ดี

10 อันดับ Social Network สุดฮิต

เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network มาแรงพร้อมกับกระแส Web 2.0 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เรียกได้ว่า สมาชิกของเว็บนั้นสร้างเนื้อหา ขึ้นมาเอง (user generated content) เรามาดูกันว่า เว็บไซต์แบบ Social Network ในโลกนี้ มีใครบ้างที่เป็นเว็บไซต์ Social Network ยอดนิยม

1. MySpace.com
2. FaceBook.com
3. Orkut.com
4. Hi5.com
5. Vkontakte.ru
6.
Friendster.com
7. SkyRock.com
8. PerfSpot.com
9. Bebo.com
10. Studivz.net



ในสิบอันดับนี้ มีเว็บที่คนไทยฮิต ๆ กันอยู่ เห็นจะมีแค่ hi5 และ facebook เท่านั้นเอง จากที่เคยเห็นข้อมูลมา จำได้ว่า แต่ละประเทศ ก็จะฮิตกัน social network ไปคนละแบบ เช่นที่สิงคโปร์ ก็จะฮิต friendster

ประเพณีบุญบั้งไฟ





บุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานของไทยรวมไปถึงลาว โดยมีตำนานมาจากนิทานพื้นบ้านของ ภาคอีสานเรื่องพระยาคันคาก เรื่องผาแดงนางไอ่ ซึ่งในนิทางพื้นบ้านดังกล่าวได้กล่าวถึง การที่ชาวบ้านได้จัดงานบุญบั้งไฟขึ้นเพื่อเป็นการบูชา พระยาแถน หรือเทพวัสสกาลเทพบุตร ซึ่ง ชาวบ้านมีความเชื่อว่า พระยาแถนมีหน้าทีคอยดูแลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล และมีความชื่นชอบไฟเป็นอย่างมาก หากหมู่บ้านใดไม่จัดทำการจัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนก็จะไม่ตกถูกต้องตามฤดูกาล อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติกับหมู่บ้านได้





เพลง รอเธอโสด
ศิลปิน SunShine

รู้ไหมว่าใครรออยู่ตรงนี้
บางทีเขาคงจะได้แต่รอ
ตั้งหน้าตั้งตาจนเกือบจะท้อ
รอนานเท่าไรก็ไม่บ่น
รู้ไหมว่าใครคนหนึ่งขี้เหงา
รอนานแล้วเขาก็ยังอดทน
ยิ่งพูดยิ่งคุยก็ยิ่งสับสน
เพราะรักเสียจนพูดไม่ถูก
ยังไงก็รอฟังบอกหน่อยนะ

อย่าปล่อยให้มันคาอยู่อย่างนี้
ฉันรอเธอโสดอยู่รู้หรือเปล่า
ถ้าเลิกกับเขาเมื่อไร ก็บอกกันนะ
ไม่ได้จะพูดให้เลิกกัน แค่อยากให้รู้ว่า
ยังรออยู่นะ ถ้าเธอจะโสด

รู้ไหมว่าใครมีข้อเสนอ
แต่กลัวว่าเธอไม่กล้าสนอง
ไม่ได้ต้องการไม่ได้เรียกร้อง
แค่อยากให้ลองคิดดีดี
ยังไงก็รอฟังบอกหน่อยนะ

อย่าปล่อยให้มันคาอยู่อย่างนี้
ฉันรอเธอโสดอยู่รู้หรือเปล่า
ถ้าเลิกกับเขาเมื่อไร ก็บอกกันนะ
ไม่ได้จะพูดให้เลิกกัน แค่อยากให้รู้ว่า
ยังรออยู่นะ ถ้าเธอจะโสด

ยังไงก็รอฟังบอกหน่อยนะ

อย่าปล่อยให้มันคาอยู่อย่างนี้
ฉันรอเธอโสดอยู่รู้หรือเปล่า
ถ้าเลิกกับเขาเมื่อไร ก็บอกกันนะ
ไม่ได้จะพูดให้เลิกกัน แค่อยากให้รู้ว่า
ยังรออยู่นะ ถ้าเธอจะโสด

ถ้าเลิกกับเขาเมื่อไร ก็บอกกันนะ
ไม่ได้จะพูดให้เลิกกัน แค่อยากให้รู้ว่า
มีฉันอยู่นะที่รอเธอโสด

กาก้าไม่อยากเชื่อโดนไล่


กาก้า กองหน้าทีมชาติบราซิล ของ เรอัล มาดริด อยากบ้าตาย โดนใบแดงครั้งที่ 3 ในชีวิตพ่อค้าแข้ง หลังถูกไล่ออกในเกมชนะ ไอวอรี่โคสต์ 3-1 เพราะกางศอกใส่คู่แข่งที่แสร้งลงไปนอนดิ้น เอามือกุมหน้า โดยเชื่อว่าตัวเองบริสุทธิ และภาพทางทีวีบ่งบอกได้ดีที่สุด โดยมี โรบินโญ่ ช่วยหนุน จวกแข้ง "ช้างดำ" เล่นบอลหนัก และคนอย่าง กาก้า จะไปตีศอกใคร

กาก้า เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิล ของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่ของสเปน ไม่ขอพูดอะไรมากกับใบแดงที่ได้มา ในเกมฟุตบอลโลก 2010 นัดล่าสุด ที่ บราซิล ถล่ม ไอวอรี่โคสต์ 3-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยบอกให้ไปดูภาพจากทีวี แล้วตัดสินเอาเอง

ซูเปอร์สตาร์แซมบ้า โดนผู้ตัดสินควักใบเหลืองที่ 2 แจกให้ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย จากจังหวะยกแขนกางศอกใส่ กาแดร์ เกติต้า ที่แสร้งลงไปนอนเอามือกุมหน้าด้วยความเจ็บปวด ทั้งๆ ที่ดูภาพช้าแล้วไม่น่ามีอะไรมาก โดย กาก้า กล่าวว่า "ผมไม่ได้ลงไปหาเรื่อง หรืออะไร ภาพบ่งบอกตัวมันเองได้ดีแล้ว ผมได้รับข้อความให้กำลังใจเยอะแยะว่า มันไม่ยุติธรรม"

"เกมฟุตบอลกลายเป็นความรุนแรง และมันไม่ดีกับแฟนบอลที่ดูอยู่ ผมมีความสุขกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง และของเซเลเซา ผมว่าเราเล่นดี เราอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย แต่เข้ารอบทั้งๆ ที่ยังเหลือเกมอีก 1 นัด" กาก้า กล่าว โดยเกมสุดท้ายพวกเขาจะพบกับ โปรตุเกส ขณะที่ใบแดงนี้เป้นครั้งที่ 3 ของเขา "ผมโดนไล่ออก 2 ครั้งตอนอยู่ เซา เปาโล และวันนี้เป็นครั้งที่สาม"

ด้าน โรบินโญ่ กองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ติดทีมชาติด้วยผลงานสุดยอดในการเล่นแบบยืมตัวกับ ซานโต๊ส จัดการจวกแข้ง "ช้างดำ" ว่า จงใจเล่นคน และเป็นตัวการทำให้เกมรุนแรงเอง "พวกเขาเตะเราตั้งแต่นาทีแรก แต่เราก้มหน้าก้มตาเล่นฟุตบอลอย่างเดียว คนอย่าง กาก้า จะไปตีศอกใส่ใคร หมอนั่นแสร้งทำเป็นเจ็บเท่านั้น นี่เป็นเกมที่ยาก เราสมควรชนะ และเราใช้โอกาสได้ดี เกมกับ โปรตุเกส ก็คงยากเหมือนกัน แต่เราอยากชนะเพื่อเป็นที่ 1 ของกลุ่ม"